KTGNEXT2

กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล เนกซ์ เทรนด์ ทริกเกอร์ ฟันด์ 2

10.2804
+ 0.0032% + 0.0311%
มูลค่าหน่วยลงทุน
(ตามสกุลเงินของกองทุน)
-
ราคาขาย
10.2804
ราคารับซื้อคืน
29,536,098.60
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ*
ข้อมูล ณ วันที่ 25/01/2567
ข้อมูล ณ วันที่ 25/12/2566
ข้อมูล ณ วันที่ 25/12/2566

ข้อมูลทั่วไป

ประเภทกองทุน กองทุนรวมผสม กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds
ระดับความเสี่ยง 6
นโยบายการลงทุน กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS และ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ และ/หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยการลงทุนในกองทุนปลายทางดังกล่าวมีนโยบายลงทุนทั้งใน ตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดตามที่กฎหมาย ก.ล.ต.กำหนด นอกจากนี้ กองทุนจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนในแต่ละกองทุน และ/หรือ สัดส่วนการลงทุนในธุรกิจ อุตสาหกรรม และประเทศใด ๆ ได้ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนที่เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ตลาดการเงิน ความอ่อนไหวของตลาด และ/หรือ การคาดการณ์ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนโดยจับทิศทางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกหรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวที่ส่งผลต่อเทรนด์การลงทุน โดยบริษัทจัดการจะทำการวิเคราะห์แนวโน้มและสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกเพื่อกำหนดกรอบการลงทุนและคัดเลือกการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งสามารถลงทุนทั้งในธุรกิจ และ/หรือ กลุ่มธุรกิจ และ/หรือ รายอุตสาหกรรม และ/หรือ กลุ่มอุตสาหกรรม และ/หรือ รายประเทศ และ/หรือ กลุ่มประเทศ ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทั้งในปัจจุบันและในอนาคต  อย่างไรก็ตาม กองทุนจะลงทุนในต่างประเทศซึ่งจะส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหรือตามอัตราส่วนที่สํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด
 
สําหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือ อาจพิจารณาลงทุนในตราสารทุน และ/หรือ ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก และ/หรือ หน่วย CIS และ/หรือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้ นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหน่วยลงทุนซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด ทั้งนี้ กองทุนปลายทางจะไม่สามารถลงทุนย้อนกลับในกองทุนต้นทาง (Circle investment) และกองทุนปลายทางจะไม่สามารถลงทุนต่อในกองทุนอื่นภายใต้บริษัทจัดการเดียวกันอีก (Cascade investment) 

กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด รวมถึงกองทุนอาจกู้ยืมเงินเพื่อการดำเนินงานของกองทุน หรือทําธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ หรือธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade) และ/หรือตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม แต่จะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Unlisted Securities)

ในกรณีที่กองทุนลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ 

ทั้งนี้ การคํานวณสัดส่วนการลงทุนตามการจัดแบ่งประเภทของกองทุน มิให้นับรวมถึงช่วงเวลาดังต่อไปนี้ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด และ/หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ก) ช่วงเวลาระหว่างรอการลงทุน ซึ่งมีระยะเวลา 30 วันนับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน
(ข) ช่วงระยะเวลา 30 วันก่อนครบกำหนดอายุโครงการหรือก่อนเลิกกองทุนรวม
(ค) ช่วงระยะเวลาที่กองทุนจำเป็นต้องรอการลงทุน และ/หรือในช่วงที่ผู้ลงทุนทำการขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน หรือมีการโอนย้ายกองทุนจำนวนมาก ซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 10 วันทำการ 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศ และ/หรือการลงทุนในกองทุนหลักไม่เหมาะสม เช่น ภาวะตลาดและเศรษฐกิจมีความผันผวน เกิดภัยพิบัติหรือเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติต่างๆ เป็นต้น และ/หรือในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่กระทบต่อการลงทุน เช่น การเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนต่างประเทศ และ/หรือกรณีที่วงเงินลงทุนในต่างประเทศเต็มเป็นการชั่วคราว และ/หรือในช่วงระหว่างรอการอนุมัติการเพิ่มวงเงินลงทุนในต่างประเทศ และ/หรือกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยหรือมีเหตุผลที่จําเป็นและสมควร ส่งผลให้กองทุนอาจไม่สามารถนําเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ทันที หรืออาจจําเป็นต้องชะลอการลงทุนในต่างประเทศเป็นการชั่วคราว ดังนั้น จึงอาจมีบางขณะที่กองทุนไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กําหนดไว้ในโครงการตามข้างต้นได้ ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะรายงานการไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กําหนดไว้ในโครงการตามประกาศต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.

บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทและลักษณะพิเศษของกองทุนรวมในอนาคตเป็นกองทุนรวมฟีดเดอร์ (Feeder Fund) หรือเป็นกองทุนรวมที่มีการลงทุนโดยตรงในตราสาร และ/หรือหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ หรือสามารถกลับมาเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Funds) โดยไม่ทำให้ระดับความเสี่ยงของการลงทุน (risk spectrum) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาด โดยเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุน อนึ่ง บริษัทจัดการจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงประเภทกองทุนดังกล่าว โดยประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทจัดการ 

บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะนำเงินลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมดกลับเข้ามาลงทุนในประเทศ หรือสงวนสิทธิที่จะเลิกกองทุน โดยถือว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายแล้ว และไม่ถือว่าปฏิบัติผิดไปจากรายละเอียดโครงการกองทุน โดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
(1) ผู้จัดการกองทุนพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศไม่เหมาะสม
(2) กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับวงเงินที่ได้รับอนุญาตให้นำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ
(3) กรณีที่ไม่สามารถสรรหา และ/หรือลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศใดๆ ที่มีนโยบายการลงทุนสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และ/หรือนโยบายการลงทุนของโครงการ
(4) กรณีที่กองทุนรวมมีจำนวนเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งกองทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม
(5) กรณีมีเหตุให้เชื่อได้ว่าเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวม
(6) กรณีที่กองทุนรวมต่างประเทศมีประเภทและชนิดของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่กองทุนไม่อาจลงทุนได้ โดยประเภทและชนิดของทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
 
 
ในกรณีที่กองทุนมีการลงทุนในกองทุนปลายทางไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนปลายทาง หากปรากฏว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนปลายทางที่กองทุนรวมไปลงทุนมีการลดลงในลักษณะ ดังนี้
(1) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันใดวันหนึ่งลดลงเกินกว่าสองในสามของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนปลายทาง หรือ
(2) ยอดรวมของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงในช่วงระยะเวลา 5 วันทำการใดติดต่อกันคิดเป็นจำนวนเกินกว่าสองในสามของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนปลายทาง
 
เงื่อนไข ในกรณีที่กองทุนปลายทางมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงในลักษณะดังกล่าว บริษัทจัดการจะดำเนินการ ดังต่อไปนี้
 
รายละเอียดการดำเนินการ
 
1. แจ้งเหตุที่กองทุนปลายทางมีมูลค่าทรัพย์สินลดลง พร้อมแนวทาง การดำเนินการของ บลจ. ให้สำนักงานและผู้ถือหน่วยลงทุน (แนวทางการดังกล่าวต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดของผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวม)
ระยะเวลาดำเนินการ  ภายใน 3 วันทาการนับแต่วันที่มีการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนปลายทางที่ปรากฏเหตุ

2. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อ 1 ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (ดำเนินการให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวด้วย)
ระยะเวลาดำเนินการ  พร้อมข้อ 1

3. ปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินการตามข้อ 1
ระยะเวลาดำเนินการ  ภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนปลายทางที่ปรากฏเหตุ

4. รายงานผลการดำเนินการตามข้อ 3 ให้สำนักงานทราบ
ระยะเวลาดำเนินการ  ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ดำเนินการตามข้อ 3 แล้วเสร็จ

บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการเลิกกองทุน หากบริษัทจัดการเห็นว่าไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนของกองทุน หรือในกรณีที่เกิดสภาวการณ์ที่ไม่ปกติหรือกรณีอื่นใดที่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้โดยจะคํานึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสําคัญ 
ดัชนีชี้วัด ตัวชี้วัด ของกองทุนรวมนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยระหว่าง
1. Bloomberg Barclays US Aggregate Total Return Value Unhedged USD : 20%
หมายเหตุ:ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันคำนวณผลตอบแทน
2. FTSE All World Index – TR Net of Tax สัดส่วน 80%
หมายเหตุ:ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันคำนวณผลตอบแทน
นโยบายการจ่ายเงินปันผล ไม่มี
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน 10,000 บาท
มูลค่าขั้นต่ำในการขายคืนหน่วยลงทุน                                          ไม่กำหนด
วัน-เวลาทำการซื้อขายหน่วยลงทุน วันทำการขาย :
บริษัทจัดการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) เพียงครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 28 เมษายน  - 6 พฤษภาคม 2565
 
วันทำการรับซื้อคืน  :

รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ

บริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน เมื่อเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุน โดยเป็นไปตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ดังต่อไปนี้

(1) เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222  บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือ  
(2) กรณี ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด
 
ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตาม (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 107 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท)

รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบดุลยพินิจของผู้ลงทุน

ในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 7 เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยจะเปิดให้มีการรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนอีกครั้ง ในวันทำการแรกนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลา 7 เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม เป็นต้นไป โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนได้ที่บริษัทจัดการ หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน (ถ้ามี) ได้ทุกวันทำการซื้อขาย ในระหว่างเวลาเริ่มเปิดทำการ – 15.30 น. อย่างไรก็ตาม หาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว
วันรับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน และราคาหน่วยลงทุน โดยมิให้นับรวมวันหยุดทำการของผู้ประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนต่างประเทศที่มีลักษณะในทำนองเดียวกับธุรกิจจัดการกองทุนรวม และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการชำระราคา แต่โดยทั่วไปจะได้รับเงินภายใน T+5 วันทำการหลังจากวันทำรายการขายคืน โดยมิให้นับรวมวันหยุดทำการในต่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ ไม่เกิน 2.14 % ต่อปี1
ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ไม่เกิน 0.0749% ต่อปี1
ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน ไม่เกิน 0.535% ต่อปี1  
1อัตรานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือภาษีอื่นใด ในทำนองเดียวกัน (ถ้ามี)

ข้อมูลพอร์ตการลงทุน

สัดส่วนประเภททรัพย์สินที่ลงทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
ตราสาร อันดับความน่าเชื่อถือ (% NAV)
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 17/03/2035 - 9.65
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 17/12/2031 - 6.73
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยงวดที่ 7/364/68 02/07/2026 - 6.05
พันธบัตรรัฐบาลส่งเสริมความยั่งยืน ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 17/06/2040 - 5.94
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยรุ่นที่ 2/2Y/67 25/11/2026 - 5.79
คุณลักษณะของกองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
  • Duration (Modified)
    4.54 ปี
  • Time to Maturity (TTM)
    5.18 ปี
  • จำนวนตราสารที่ถือครอง
    124
  • จำนวนผู้ออกตราสาร
    40
  • Tracking Error 1 ปี ย้อนหลัง
    0.29
  • Tracking Difference 1 ปี ย้อนหลัง
    -0.44
การจัดสรรการลงทุนในผู้ออกตราสาร 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
  • ผู้ออก
    (% NAV)
  • กระทรวงการคลัง
    43.62
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย
    24.16
  • บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย)
    3.62
  • บมจ. ซีพี ออลล์
    2.60
  • บมจ. บ้านปู
    2.40
ข้อมูลเชิงสถิติ (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
  • Maximum Drawdown
    -2.53%
  • Recovering Period
    1 ปี 6 เดือน
  • FX Hedging
    100.24%
  • อัตราส่วนหมุนเวียนการลงทุน
    1.29 เท่า
  • อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้
    4 ปี 8 เดือน 1 วัน
  • Yield to Maturity
    1.75
อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ภาคเอกชนโดยเฉลี่ย (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
  • National
    A
  • International
    A
น้ำหนักการลงทุนตามอันดับความน่าเชื่อถือ (%) (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2568)
ในประเทศ ต่างประเทศ รวม
GOV bond/AA 68.55 - -
AA 7.43 - -
A 19.2 - 2.98
BBB 3.78
ต่ำกว่า BBB
Unrated/non

ข้อมูล Morningstar Rating ณ วันที่ 31/07/2568
© สงวนลิขสิทธิ์ 2568 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ประเทศไทย ข้อมูลนี้ (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) ขอสงวนสิทธิ์ในการลอกเลียน หรือเผยแพร่ (3) ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนําข้อมูลไปใช้อ้างอิง, ผลการดําเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต

หมายเหตุ โปรดอ่านและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ประวัติการจ่ายปันผล

วันที่ปิดสมุดทะเบียน (วัน/เดือน/ปี) วันที่จ่ายปันผล จำนวนเงินต่อหน่วย (ปันผล)
ไม่พบข้อมูล
จ่ายทั้งหมด 0 ครั้ง   จำนวนเงินปันผลทั้งหมด 0.0000 บาท

มูลค่าหน่วยลงทุนย้อนหลัง

ผลการดำเนินงาน

ช่วงเวลา ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (%)
( สิ้นสุด ณ 16 ตุลาคม 2568 )
ความผันผวน (Standard Deviation) (% ต่อปี)
KTGNEXT2 Benchmark 1 Benchmark 2 KTGNEXT2 Benchmark 1 Benchmark 2
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -0.96 1.15 - 8.54 8.41 -
ย้อนหลัง 3 เดือน 9.65 10.20 - 10.54 11.90 -
ย้อนหลัง 6 เดือน -0.63 5.89 - 10.43 11.39 -
ย้อนหลัง 1 ปี 4.71 19.71 - 11.36 11.57 -
ย้อนหลัง 3 ปี - - - - - -
ย้อนหลัง 5 ปี - - - - - -
ย้อนหลัง 10 ปี - - - - - -
นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทุน 0.86 10.61 - 15.55 15.16 -

* รายงานข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงานแบบเปอร์เซ็นไทล์

Benchmark 1 คือ ดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้น (Short-term Government Bond Index) : 100%

Duration อายุเฉลี่ยตราสาร

Modified Duration เฉลี่ย 0.19

Benchmark 1 คือ ดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้น (Short-term Government Bond Index) : 100%

ผลการดำเนินงานรายปี

ปี ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (%)
( สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2568 )
ความผันผวน (Standard Deviation) (% ต่อปี)
KTGNEXT2 Benchmark 1 Benchmark 2 KTGNEXT2 Benchmark 1 Benchmark 2
2566 9.40 20.32 - 11.70 12.01 -
2565 -6.29 -2.05 - 20.49 19.61 -

* รายงานข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงานแบบเปอร์เซ็นไทล์

Benchmark 1 คือ Bloomberg Global EQ:FI 80:20 Index ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อคํานวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่ลงทุน ประมาณ 80% และปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คํานวณผลตอบแทน ประมาณ 20%

Duration อายุเฉลี่ยตราสาร

Modified Duration เฉลี่ย 0.19

หมายเหตุ

  • การแสดงผลการดำเนินงานของกองทุนรวม เป็นไปตามประกาศสมาคมบริษัทจัดการกองทุน ที่ สจก.ร. 1/2566 โดย
    1. ผลการดำเนินงานน้อยกว่า 1 ปี แสดงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง ไม่ปรับเป็นอัตราต่อปี
    2. ผลการดำเนินงานมากกว่า 1 ปี แสดงผลการดำเนินงานเป็นอัตราต่อปี
  • การวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมบนเว็บไซต์นี้ ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดและนำเสนอผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ดาวน์โหลดเอกสาร

ไม่พบข้อมูล